รู้ไหมว่าที่นอนที่เราเลือกส่งผลต่อสุขภาพของตัวเราเองไม่น้อยเลย
อาการปวดหลัง ปวดคอ หรือนอนไม่หลับ อารการเหล่านี้ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากที่นอนไม่เหมาะกับสรีระร่างกาย
โดยเฉลี่ยแล้วคนเราใช้ชีวิตบนที่นอน 6-8 ชั่วโมงจึงไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจที่สุขภาพของคนเราที่นอนจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญ ดังนั้นในการเลือกที่นอนเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ เลือกอย่างไรที่เหมาะต่อร่างกายของเรามากที่สุด
ที่นอน ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีทั้งหมด 4 ชนิดด้วยกันได้แก่
โดยแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติ ข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันออกไปดังนี้
โดยทั้งสองจะมีความแตกต่างกันตั้งแต่วิธีการผลิต เริ่มจากที่นอนยางพาราแท้ จะใช้แม่พิมฉีดน้ำยางขึ้นรูปเป็นที่นอน ส่วนที่นอนยางพาราอัดที่ใช้เศษยางพารา มาผสมอัดรวมกันเป็นก้อนจากกรรมวิธีการผลิตที่แตกต่างส่งผลให้คุณสมบัติของที่นอนยางพารามีความแตกต่างกันโดยที่นอนยางพาราอัดจะมีความหนาแน่นมากกว่าที่นอนพาราแท้ ส่งผลให้การรองรับสรีระของผู้นอนไม่สามารถได้ดีอย่างที่ควร
ข้อดีของที่นอนยางพารา
ข้อเสียของที่นอนยางพารา
ที่นอนสปริงเป็นที่นอนยอดนิยมทุกยุคทุกสมัย ด้วยคุณสมบัติความยืดหยุนและการคืนตัวที่ดีอย่างมาก มีน้ำหนักเบากว่าที่นอนไม่มีสปริงโครงสร้างสปริงที่อยู่ภายใน ช่วยในการรองรับสรีระเป็นอย่างดี เหมาะสำหรับผู้ที่มีพฤติกรรมชอบนอนตะแคง เพราะสปริงจะยุบตัวลงไปไม่ทำให้ให้เกิดการกดทับ ปวดบริเวณไหล่ในขณะที่นอนสปริง แบ่งเป็นสองกลุ่มใหญ่
1. Bonnell Spring and Offset Spring วงสปริงแบบนาฬิกาทราย
ความสำคัญของที่นอนสปริงแท้จริงแล้ว โครงสร้างสปริงที่ดี สามารถรองรับสรีระร่างกายของคนเราในขณะที่นอนได้อย่างเต็มที่ มีราคาย่อมเยาว์ ความคงทนสูง ราคาขึ้นอยู่กับความหนาของลวดที่ใช้ โครงสร้างที่ดีอายุการใช้งานนาน จะต้องผ่านการอบความร้อนด้วยอุณภูมิสูง มีการร้อยเรียงที่แน่นไม่แตกหักหลุดง่าย
2. Pocket Spring สปริงที่ห่อหุ้มด้วยถุงผ้า แยกอิสระระหว่างกัน
โดยการผลิตโครงสร้างแบบพ็อคเก็ตนี้ สปริงแต่ละวงจะถูกนำมาบรรจุอยู่ในถุงผ้าแล้วร้อยเรียงให้เกิดความหนาแน่น ซึ่งจำนวนวงสปริงมากกว่าระบบบอนแนล สปริงชนิดนี้ทั่วโลกนิยมใช้ มีราคาสูงกว่าสปริงทั่วไป ในธุรกิจโรงแรมนิยมใช้กันแพร่หลาย ด้วยการผลิตรูปแบบนี้ช่วยลดปัญหาการเสียดสีกันระหว่างวงสปริง ได้จึงไม่ก่อให้เกิดเสียงเสียดสี จุดเด่นคือการรับน้ำหนักเฉพาะจุดแต่ละวงสปริงที่แยกอิสระจึงทำให้เวลาพลิกตัวหรือขยับตัวไปมาแม้ลุกขึ้นจากที่นอนจะไม่ส่งแรงสะเทือนไปยังคนข้างๆ
3. Offset Spring ที่นอนสปริงแบบออฟเซ็ท
คือที่นอนที่พัฒนามาจากที่นอนสปริงแบบบอนแนลล์โดยเพิ่มความแข็งแรงให้กับสปริงมากขึ้น ส่งผลให้ช่วยลดเสียงเสียดสีที่เกิดขึ้นได้ แต่ด้วยความแข็งแรงของที่นอน ส่งผลให้มีความยืดหยุ่นต่ำ และไม่รองรับสรีระของผู้นอนเท่าที่ควร
ที่นอนฟองน้ำทำมาจากการน้ำฟองน้ำมาบดเป็นชิ้นเล็กๆแล้วอัดให้แน่นจนกลายเป็นที่นอน และด้วยความหนาแน่นของฟองน้ำจึงส่งผลให้การยุบตัวของที่นอนมีน้อย มีความยืดหยุ่นต่ำไม่มีแรงต้านเพื่อรับกับสรีระ แต่ไม่แข็งจนเกินไปเมื่อเทียบกับที่นอนใยมะพร้าว
ข้อดีของที่นอนฟองน้ำอัด
ข้อเสียของที่นอนฟองน้ำอัด
ปัจจุบันแทบจะไม่มีที่นอนที่ผลิตจากใยมะพร้าวให้เห็นมากนัก วิธีการคือใช้ใยมะพร้าวนำมาอัดแน่นเข้าด้วกยันเป็นแผ่นแล้วอบด้วยความร้อนผ่านกระบวนการฆ่าเชื้อก่อนนำมาประกอบเป็นที่นอน มักมีการเสริมฟองน้ำด้วยเพื่อเพิ่มความนุ่มของที่นอน ยุบด้วยช้าราคาไม่สูงมากนักแม้ใยมะพร้าวราคาสูง แต่แผ่นใยมะพร้าวก็ยังมีความสำคัญในการใช้ผลิตที่นอนเรื่อยมาที่นอนชนิดนี้เมื่อเสื่อมคุณภาพแล้ว ไม่ควรฝนใช้งานต่อไป เพราะการเสื่อมสภาพจะทำให้ที่นอนใยมะพร้าวเกิดการเปื่อยยุ่ย เป็นฝุ่นผง ทำให้เกิดอัตรายต่อสุขภาพทางเดินหายใจ
เมมโมรี่โฟมมีคุณสมบัติที่คืนตัวได้ช้าและรองรับแรงกดทับได้ดี เหมาะสำหรับคนที่ชอบที่นอนนุ่มมากๆ หากเป็นเมมโมรี่โฟมล้วน ความจมจะมีมาก เวลาเลือกซื้อ ควรทดลองนานๆเพื่อให้มั่นใจว่า ถูกใจจริงๆควรระวังเมมโมรี่โฟมที่นิ่มเกินไป เนื่องจากเวลานอน ผู้นอนจะจมลงไปในที่นอน อาจทำให้การพลิกตัวไปมายามหลับ ลดลงส่งผลให้เมื่อตัวได้ แต่ถ้าสปริงเมริมชั้นเมมโมรี่โฟมบางๆ จะใช้งานง่ายกว่า ไมเ่สี่ยงต่อการปวดเมื่อยเมื่อตื่นนอน
เพื่อการเลือกซื้อ ที่นอนที่ดี อย่างเหมาะสม ควรจะไปเลือกด้วยตนเองดีที่สุด เพื่อทำการทดลองนอนอย่างน้อยสัก 5-10 นาที ซึ่งเราจะได้คำตอบว่าที่นอนนั้นเหมาะสมกับเราหรือไม่ และควรสอบถามพนักงานขายด้วยว่า มีคุณสมบัติป้องกันไรฝุ่น เชื้อรา และแบคทีเรีย ด้วยหรือไม่ เพื่อสุขภาพและความปลอดภัยต่อคุณและครอบครัว