แอร์เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จำเป็นมากในปัจจุบันโดยเฉพาะประเทศไทย ซึ่งมีลักษณะอากาศ ร้อนเป็นซะส่วนใหญ่ วิธีการเลือก BTU แอร์ให้เข้ากับขนาดห้องจึงเป็นสิ่งสำคัญ เราควรเลือกให้เหมาะสมกับขนาดห้องให้มากที่สุด เพราะถ้าเล็กเกินไป ใช้ไปแล้วอาจจะไม่เย็น แอร์ต้องทำงานหนักมากจนพังง่ายหรือถ้าใหญ่เกินไป ก็จะเป็นการเปลืองไฟฟ้าโดยใช่เหตุ ซึ่งจริงๆแล้วมีวิธีการดูขนาด BTU แอร์ให้เหมาะสมกับขนาดห้องดังนี้
BTU คือ ขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศ โดยย่อมาจากคำว่า British Thermal Unit ซึ่ง 1 ตันความเย็น จะเท่ากับ 12000 BTU ต่อชั่วโมง ฉะนั้นการเลือก BTU ย่อมมีความสำคัญ เพราะจะเกี่ยวเนื่องกับการประหยัดพลังและอายุการใช้งานของแอร์
แอร์ที่มี BTU สูงเกินไปนั้น จะทำให้การทำงานของคอมเพรสเซอร์ตัดบ่อย เนื่องจากมีการทำความเย็นได้อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ประสิทธื์ภายในการทำงานลดน้อยลง และยังส่งผลให้มีความชื้นภายในห้องสูง อาจทำให้ผู้ที่อยู่อาศัยป่วยหรือไม่สบายได้ อีกทั้งยังทำให้เปลืองพลังงานอีกด้วย
แอร์ที่มี BTU ต่ำเกินไปนั้น ก็จะทำให้คอมเพรสเซอร์ทำงานตลอดเวลาและหนักจนเกินไป เพราะอุณหภูมิความเย็นไม่ตรงตามที่ตั้งหรือกำหนดไว้ ซึ่งจะส่งผลทำให้แอร์เสียได้ง่าย และ เปลืองพลังงาน
ซึ่งการคำนวณ BTU จะช่วยในการเลือก BTU ให้เหมาะสมกับขนาดของห้อง ทำให้แอร์สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยประหยัดทั้งพลังงานและค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้นจากการติดตั้งแอร์ที่ไม่เหมาะสมและควรคำนึงถึง มาตรฐานต่างๆเช่น ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 และเทคโนโลยีต่างๆ เช่นระบบฟอกอากาศ ระบบทำความเย็น เพื่อหน้าร้อนนี้เจ้าของบ้านทุกท่าน จะได้เย็นสบายแถมประหยัดเงินในกระเป๋าอีกด้วย