แต่ปัญหาผนังบ้านแตกร้าวบางประเภท ก็ไม่ได้ร้ายแรงจนต้องจ้างช่าง อาจเป็นเพียงปัญหากวนใจเล็ก ๆ ที่สามารถแก้ไขได้ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ โดยไม่ต้องพึ่งช่างให้เปลืองค่าแรง อาทิเช่น

  
          1. รอยแตกลายงา 
รอยแตกที่มีศิลปะมากที่สุดดูเหมือนต้นไม้ที่กำลังแผ่กิ่งก้านสาขา ด้วยลักษณะของรอยแตก อาจสร้างความน่าตกใจอยู่ไม่น้อย ซึ่งโดยทั่วไปปัญหานี้มักเกิดจากฝีมือการฉาบของช่างหรือตัวปูนที่ใช้ในการฉาบไม่ได้คุณภาพ ทำให้เกิดปัญหาการยึดเกาะ แก้ได้ง่าย ๆ เพียงใช้ปูนกาว หรือวัสดุอุดรอยต่อฉีดอัดเข้าไป และใช้กระดาษทรายขัดให้เรียบ ปิดด้วยการทาสีทับเป็นอันจบปัญหา

 
          2. รอยแตกมุมวงกบหน้าต่างประตู 
ปัญหาที่หลายบ้านมักต้องเจอและส่งผลให้เกิดการรั่วซึมของน้ำเข้าตัวบ้าน มักเกิดจากการยืดหดตัวที่ต่างกันของวงกบและตัวผนัง หรือการเลือกใช้วงกบที่ไม่มีคุณภาพ สามารถแก้ไขได้โดยการสกัดรอยแตกร้าวออก และอุดปิดร่องรอยด้วยวัสดุที่ไม่หดตัว เสร็จแล้วทาสีกลบทับ หรือถ้ารอยไม่ใหญ่มากนัก ก็สามารถใช้วัสดุอุดรอยฉีดเข้าไปได้เลยและใช้กระดาษทรายขัด จากนั้นก็ทาสีทับได้เช่นกัน

          แต่ถ้าเป็นรอยแตกแนวดิ่งหรือแนวเฉียงตลอดผนังล่ะ จะทำอย่างไรดี 
ลักษณะรอยแตกแบบนี้ อาจเกิดจากการที่คานรับน้ำหนักมากเกินไป อันตรายมากสุดคือส่งผลต่อโครงสร้าง การแก้ไขปัญหาเพียงซ่อมแซมพื้นผิว จะไม่สามารถสร้างความแข็งแรงได้มากพอ ควรให้ช่างผู้ชำนาญหรือวิศวกรเข้ามาตรวจสอบให้จะดีกว่า เผื่อบางทีอาจจำเป็นต้องรื้อถอนเพื่อเสริมความแข็งแรงก็ได้

          เรื่องของรอยแตกร้าวตามผนังบ้าน ถือเป็นเรื่องตามธรรมชาติที่ทุกบ้านจำเป็นต้องเจอ ด้วยเพราะอายุการใช้งานที่เสื่อมไปตามกาลเวลาและความสมดุลของพื้นผิวธรรมชาติที่ไม่อาจควบคุมได้ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ทุกบ้านจำเป็นต้องหาทางแก้ไข เพียงแต่ต้องรู้เสียก่อนว่าปัญหาของรอยแตกร้าวนั้นๆ แท้จริงแล้วมันเกิดจากเหตุใด เพื่อการแก้ไขที่ตรงจุดเท่านั้นเอง