ปัญหาผนังที่กั้นห้องระหว่างห้อง กั้นระหว่างยูนิต ไม่ว่าจะเป็นบ้าน คอนโดมิเนียม หอพัก อพาร์ตเม้นต์ที่ไม่สามารถป้องกันเสียงได้นั้น เป็นปัญหาที่เมื่อมีคนเข้าอยู่แล้ว จะมาทำการแก้ไขจะเป็นการยากขึ้น หรืออาจจะแก้ไขไม่ได้เลย และหากมีการร้องเรียนระหว่างกัน จะเป็นปัญหาที่ไม่รู้จักจบสิ้น

โดยปกติการป้องกันเสียงที่ดีที่สุด จะนิยมใช้แผ่นซับเสียง แต่วิธีการดังจะเหมาะกับห้องบันทึกเสียง ห้องดูหนัง หรือร้านอารหารที่ให้บริการคาราโอเกะ แผ่นซับเสียงจะช่วยป้องกันเสียง เข้าเสียงออกเป็นอย่างดี แต่สำหรับบ้านพักอาศัยทั่วไป การติดตั้งแผ่นซับเสียงจะเป็นการสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย วันนี้มีบทความที่สามารถป้องกันเสียงรบกสนได้ในระดับนึงครับ

1.ปิดช่องโหว่รอบผนังบ้าน ช่องว่างด้านบนและใต้ประตู

หากปิดประตูหน้าต่างสนิทแล้ว แต่ยังได้ยินเสียงจากภายนอกชัดเจน แนะนำให้เจ้าของบ้านตรวจเช็คช่องว่างต่างๆ ภายในห้องดังกล่าว เช่น ช่องว่างระหว่างประตูกับพื้น, ช่องว่างระหว่างวงกบหน้าต่าง, รวมทั้งตรวจสอบรอยร้าวบนผนัง เพราะเสียงอาจเล็ดลอดผ่านเข้ามาได้ทุกช่องทาง

   – กรณีช่องว่างระหว่างประตู ปัจจุบันมีอุปกรณ์กั้นประตู ที่ผลิตจากแผ่นยาง สามารถติดเพื่อกั้นช่องว่างได้ทันที

   – กรณีช่องว่างระหว่างวงกบ อาจใช้ซิลิโคนอุดตามวงกบ เพื่อให้วงกบกับผนังแนบชิดติดกัน

   – ส่วนรอยร้าวบนผนัง ใช้วิธีโป้วสี จะช่วยให้รอยร้าวต่างๆ กลับมาเรียบสนิทเช่นเดิม

 

 

2.เปลี่ยนหน้าต่างแบบเดิมเป็นรุ่นปิดสนิท

รูปแบบของหน้าต่างและวัสดุที่นำมาใช้ เป็นสิ่งสำคัญที่มีผลต่อการรับเสียงเช่นกัน ควรเลือกหน้าต่างที่มีรอยต่อน้อยและปิดสนิท เช่นหน้าต่างกรอบอลูมิเนียม บานกระจก จะช่วยป้องกันเสียงได้ดีกว่า หน้าต่างกรอบไม้และบานไม้ ส่วนรูปแบบหน้าต่างที่กันเสียงได้ดีเป็นหน้าต่างบานสไลด์เลื่อน กระทุ้ง พร้อมกับ ติดขอบกันเสียง แต่หากเป็นหน้าต่างบานเกล็ด คุณสมบัติป้องกันเสียงจะลดน้อยลง

 

3.ฝ้าเพดานต้องมี

เสียงไม่ได้เข้ามาทางผนังบ้าน หรือช่องหน้าต่างเท่านั้น แต่เสียงยังสามารถเข้ามาทางเพดานได้ดี การติดฝ้าเพดานจึงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยป้องกันเสียงได้อีกทาง ยิ่งหากบนฝ้ามีการติดฉนวนกันร้อนด้วย ฉนวนดังกล่าวแม้คุณสมบัติหลักจะไม่ได้ป้องเสียง แต่ก็ช่วยซับเสียงแถมมาให้ ได้ทั้งกันร้อนและกันเสียงไปในตัว

4.เลือกติดวอลเปเปอร์ตกแต่งผนังแบบหนา

หลายๆคนอาจจะคิดว่าการติดวอลเปเปอร์ (Wallpaper) เป็นแค่การตกแต่งผนัง แต่ความจริงวอลเปเปอรบางรุ่นยังทำหน้าที่ช่วยดูดซับลดเสียงรบกวนได้ด้วย เช่น วอลเปเปอร์ 3D ที่มีลายนูนสูงต่ำ วอลเปเปอร์แบบหนาชนิด PE FOAM ด้วยเนื้อโฟมที่หนานุ่มจึงลดทอนเสียงรบกวนจากบริเวณใกล้เคียง ได้ดี เพิ่มความสงบภายในห้องได้ดี

5.ติดผ้าม่านเป้นตัวช่วยซับเสียง

นอกจากติดวอลเปเปอร์แล้ว ทราบหรือไม่ว่า ผ้าม่าน ที่เราใช้กั้นกรองแสงยังเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่ใช้ดูดซับเสียงได้เช่นกัน โดยใช้ผ้าเนื้อดีหนาๆ ที่มีความสามารถลดความรุนแรงของคลื่นเสียงได้มากขึ้น ในปัจจุบันยังมีพัฒนาเทคโนโลยีในการทอผ้าที่ช่วยให้ผ้ามีน้ำหนักเบาและดูดซับเสียงได้มากกว่าเดิม

6.ลดการสะท้อนของเสียงด้วยชั้นติดผนังหรืองาน Buit-in 

หลังจากเราสร้างบ้านเเสร็จใหม่ๆ ขณะที่ห้องยังโล่ง ไม่มีเฟอร์นเจอร์ของตกแต่งมากนัก เสียงในบ้านจะก้องสะท้อนได้ดี นั่นเป็นเพราะไม่มีสิ่งของมาช่วยดูดเสียง ทำให้เสียงสะท้อน ผนังกลับไปกลับมานั่นเอง ห้องที่โล่งเกินไปจึงรับเสียงเข้ามาสะท้อนภายในได้ดีกว่าห้องที่มีเฟอร์นิเจอร์ วิธีการลดทอนการหักเหของคลื่นเสียงทำได้ง่ายๆ เช่น การติดตั้งชั้นลอยสำหรับวางของ หรือติดตั้ง Buit-in ชั้นวางทีวีหรือชั้นหนังสือ ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ปิดทับผนังไว้จะช่วยลดทอนเสียงได้มากกว่าเดิม

วิธีนี้ เป็นแนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้นสำหรับบ้านที่ได้สร้างหรืออยู่อาศัยแล้ว แต่หากเป็นบ้านที่ยัง ไม่เริ่มสร้าง การป้องกันเสียงยังสามารถทำได้หลายวิธี ทั้งการออกแบบผังบ้าน โดยเลือกตำแหน่งห้อง สำหรับพักอาศัยให้อยู่ภายใน, เลือกวัสดุก่อผนังอิฐมวลเบาหรือก่ออิฐมอญ 2 ชั้น จะช่วยป้องกันเสียงทาง ผนังได้ดีกว่าการก่อชั้นเดียว สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหานี้อยู่ ลองนำไอเดียไปประยุกต์ใช้ได้ตามสะดวกเลยนะครับ

ในปัจจุบัน ทางเราได้พัฒนา CEALECT APPLICATION ซึ่งรวม ผู้รับเหมา ช่าง สถาปนิก ฯลฯ ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ มาคอยให้บริการ สะดวกทั้งในด้านเวลาและสามารถนัดหมายล่วงหน้าได้จึงเหมาะในยุคปัจจุบัน ตัดปัญหาช่างทำงานไม่จบ ทำงานไม่เรียบร้อยได้